สเปอร์สได้อะไรจากเกมยูโรป้า เมื่อคืนนี้

หากนับผลงานสามทีมจากพรีเมียร์ลีค เมื่อคืนนี้ เราให้สเปอร์ส โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มสามทีมด้วยกันเหนือ อาร์เซนอล กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เกมที่เจอกับลูโดโกเรตส์ ไม่ง่ายนะ แต่นักเตะของ มู ทำให้เราที่ดูเพียงแค่ไฮไลต์ รู้สึกว่าทำไมมันห่างชั้นกันจังเลย ชัยชนะเกมนี้ สเปอร์ส ของ มูได้อะไรบ้าง

ตัวหลัก พักเต็มๆ

เกมเมื่อคืนใครเห็นไลน์อัพ อาจจะอุทานในใจว่า พี่แกเอาอีกแล้ว เพราะว่า มู เลือกที่จะโรเตชั่นทีมลงสนามแทนที่จะส่งตัวจริงลง (ทั้งที่สถานการณ์ในกลุ่มยังไม่ชัดเจน) ทำให้เกมนี้พี่แกเสี่ยงพอสมควร แต่ว่าทีมสำรองบวกกับดาวรุ่ง ก็ไม่ทำให้พี่เค้าผิดหวัง เล่นดีมากตั้งแต่ต้นจนจบ นั่นทำให้ตัวหลักอย่าง เคน , ซอน เฮือน มิน, เอริค ไดเออร์ , เรกีลอน ได้พักเต็มๆ รอฟัดกับเชลซีในสุดสัปดาห์นี้ได้เลย (ขอแสดงความเสียใจกับ แฟนเชลซีด้วย)

ตัวสำรอง ดาวรุ่ง ลงสนาม

เกมนี้พอขาด น้ามู ก็ยังเป็นน้ามู ที่มีความเขี้ยว แต่ได้ใจลูกน้องมาก กล่าวคือ พอนาทีที่ 81 เค้ากล้าที่จะเปลี่ยนนักเตะระดับดาวรุ่ง ลงไปสัมผัสเกมในสนามเลย คำว่าดาวรุ่งที่เราว่านี่ดาวรุ่งจริงนะ ไม่ว่าจะเป็น อัลลี่ ไวท์แมน ผู้รักษาประตูมือสาม เดน สการ์เลตต์ นักเตะอายุ 16 และ ฮาร์วี่ย์ ไวท์ ลงสนาม สร้างความฮือฮาให้กับแฟนสเปอร์สมากทีเดียว ตลอด 10 กว่านาทีทั้งสามได้ลงสนาม ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของเจ้าตัวเลยน่าจะได้ใจลูกน้องเต็มๆงานนี้

เรียกความมั่นใจ

ในกลุ่มตัวจริงเมื่อคืนนี้ มีหลายคนที่กลับมาฟอร์มดีแบบไม่เอาหล่อ อย่าง เดเล่ อัลลี่ เริ่มจะกลับฝั่งมาเป็นคนเดิมที่ดูมุ่งมั่นกับฟุตบอลมากขึ้น ลูคัส มูร่า กับ 1 ประตูที่พร้อมจะลงสนามอย่างต่อเนื่อง คาร์ลอส วินิซิอุส ฟอร์มเด่นสุดเกมนี้ที่พร้อมส่งสัญญาณความมั่นใจให้เจ้านายเห็นว่าเกมต่อไปเลือกผมนะ และอีกหลายคน งานนี้คงเป็นความน่าปวดหัวที่น่ายินดีของ มูรินโญ่ ที่เค้ามีนักเตะพร้อมทั้งสภาพร่างกาย และ ความมั่นใจไว้ลุยต่อช่วงปลายปีกันแล้ว

เจาะประเด็นสำคัญ เกมเมอร์ซีย์ไซด์ ครั้งล่าสุด

 

หลังจากกลับมาจากทีมชาติ เหล่านักเตะอาจจะได้พัก 1-2 วัน ก็ต้องมาเริ่มซ้อมและแข่งต่อในเกมสโมสร ซึ่งคราวนี้จะยิงยาวไปอีกนานเลยกว่าจะได้พักอีก ทีนี้เกมลีคหลังจากกลับมาเปิดใหม่ เกมสำคัญอยู่ที่คู่หัวค่ำเป็นเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ระหว่างเอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูลที่ทั้งสองมีคุณภาพทีมใกล้เคียงกันมากในรอบหลายปี สุดท้ายเสมอกันไป 2-2 สุดมัน มีประเด็นสำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้าง

เกมรับไม่แข็งเหมือนกัน

ว่ากันที่ฝั่งของลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่าจุดแข็งของพวกเค้าอย่างเกมรับ มาตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว อย่างแรกพวกเค้าไม่ได้ใช้ อลิสซอน จากอาการบาดเจ็บ ส่งอาเดรียน ลงสนามซึ่งเกมนี้ก็ทำให้รู้เลยว่าไม่นิ่งพอ ไม่เท่านั้นมาเสีย ฟานไดค์ ไปอีกในจังหวะเข้าปะทะ ทำให้เกมรับที่เหลืออ่อนยวบลงไปเยอะ ยิ่งเกมลูกกลางอากาศสู้เค้ายากเลย พอเกมรับไม่แข็งก็กลายเป็นช่องว่างให้เอฟเวอร์ตันฉกฉวยโอกาสนี้ไปได้

นักเตะใหม่ในแดนกลาง

จุดน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของเกมคู่นี้ เป็นเรื่องของสองนักเตะใหม่ทั้งสองคนอย่าง ธิอาโก้ อัลคันทาร่า จากลิเวอร์พูล และ ฮาเมส โรดริเกวซ ทั้งสองคนโดนจับตามองว่าจะโชว์ฟอร์มได้ดีแค่นี้ แล้วก็ทำให้เราเห็นจริงว่า สองคนนี้เป็นอีกคนที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป ธิอาโก้ ได้บอลก็พร้อมจะจ่ายเปลี่ยนแกน หรือ ทะลุทะลวงแนวกลางได้เลย ส่วนฝั่งฮาเมสนี่เด่นมาก เวลาได้บอล นักเตะลิเวอร์พูลแย่งมายากมาก มีการโยกหลอก บด คลึง ดึงจังหวะให้ได้เปรียบเกือบทุกรอบ

VAR ตัวตัดสิน

อย่างไรก็ตามในเกมที่สูสีแบบนี้ สิ่งที่มาตัดสินเกมทุกอย่างที่ทำมา กลับกลายเป็น VAR ไปซะอย่างนั้น เนื่องจากว่าเกมนี้ลิเวอร์พูลมีโอกาสชนะจากลูกยิงของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ได้รับการป้ายบอลเข้ามาจากมาเน่ แต่ว่าสุดท้ายประตูนี้ไม่ได้เพราะว่า มาเน่ ล้ำหน้าก่อนจะเล่นบอล ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แล้วคงต้องไปว่ากันเรื่องมาตรฐานการตัดสินอีกครั้งหนึ่ง

ขอชาบู กุนซือหัวใจสิงห์ อันโตนิโอ คอนเต้

 

ถือว่าได้บทสรุปก่อนใครเพื่อนแบบเหนือความคาดหมายเหมือนกัน สำหรับ ลีค กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี ที่ตอนนี้ได้ทีมแชมป์ผู้คว้า สคูเด็ตโต้ เป็นที่เรียบร้อยนั่นก็คือ อินเตอร์ มิลาน ที่กลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ลีคได้อีกครั้ง ในรอบกว่าสิบปีทีเดียว (ครั้งสุดท้ายที่ทำได้ก็ยุค มูรินโญ่ กับทริปเปิ้ลแชมป์โน่นเลย) การได้แชมป์ในคราวนี้ คนที่ควรได้รับเครดิตคงหนีไม่พ้นอันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือมาดเข้มที่เค้าเองยังบอกว่านี่เป็นงานที่ยากสุดในชีวิตกันเลยทีเดียว

การเข้ามาบนความเปลี่ยนแปลง

ตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลที่เรามองว่ามันเป็นเรื่องยากมาก ก็เพราะว่าอาชีพนี้จะต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกวันเลยทีเดียว ซึ่งการเข้ามาทำงานของคอนเต้ ก็เป็นแบบนั้น เข้าเค้ามาพร้อมกับสโมสรที่กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงจากกลุ่มทุนเดิม ไปสู่กลุ่มทุนใหม่ของจีนที่ชื่อว่า กลุ่มทุนซูหนิง แน่นอนว่าการเข้ามาของกลุ่มทุนต่างชาติทำให้ทุกอย่างแนวคิดอาจจะไม่ลงตัวสักเท่าไร จนเกือบจะต้องแยกทางกันในช่วงซีซั่นที่แล้ว ยังดีที่เคลียร์กันลงตัวแล้วจับมือเดินหน้าต่อมาจนถึงแชมป์จนได้ในวันนี้ การทำทีมบนความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนได้แชมป์อีก

แรงกดดันจากรอบข้าง

การทำงานของ อันโตนิโอ คอนเต้ เค้าเป็นคนที่มุ่งมั่นในชัยชนะมาก จนบางครั้งอาจจะเรียกได้ว่า ยอมหัก ไม่ยอมงอกันเลยทีเดียว เลยไม่แปลกที่เค้าจะเจอแรงกดดันจากรอบข้าง ในคนที่ไม่เข้าใจการทำงานของเค้า ไหนจะความเชื่อใจจากแฟนบอลที่ว่ากันตามตรงก็ให้ไม่เต็มร้อยเท่าไร จากประวัติของเค้าที่เป็นนักเตะคู่อริอย่าง ยูเวนตุส หรือจะเป็นเคสที่ยอมซื้อ โรเมลู ลูคาคู มาในราคาที่ใครๆก็มองว่าแพงเกินไป แล้วนักเตะคนนี้ก็ถูกอวยเวอร์เกินไป ไม่ควรซื้อมา แต่คอนเต้ ก็ปลุกให้ ลูคาคู กลายเป็นศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของลีคไปได้ในที่สุด

การเสียสละเครดิตเก่า

ที่อิตาลี การเป็นนักเตะเก่าของ ยูเวนตุส เป็นอดีตผู้จัดการทีมของยูเวนตุส แล้วย้ายมายังขั้วอำนาจที่แย่งแชมป์โดยตรงอย่าง อินเตอร์ มิลาน ถือว่าเป็นการทำลายน้ำใจแฟนบอลยูเวนตุสโดยตรง การเข้าไปทำงานตรงนี้เท่ากับว่าเป็นการประกาศตัวเป็นศัตรูกับบ้านเก่าอย่างเต็มตัว คอนเต้ เองก็รู้ แต่เค้าไม่สน เค้าเลือกที่จะเดินหน้าทำงานต่อไป เรื่องนี้ต้องชาบูหัวจิตหัวใจเค้าจริงๆ