เงินเดือนนักเตะไม่เข้า สัญญาณเตือนอันตราย

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของทีมในไทยลีคนั้น มองในมุมของการพัฒนาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากมองอีกมุมหนึ่งการพัฒนาที่เร็วเกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนขึ้นได้ง่าย อย่างเช่นเรื่องของเงินเดือนที่ตอนซื้อตัวอยากได้นักเตะคนนี้ก็เสนอเงินเดือนนักเตะสูงไปแต่จ่ายไม่ไหว สุดท้ายเกิดปัญหาเรื่องของการเงินขึ้นมาจนได้

เงินเดือนไม่เข้า สัญญาณเตือนอันตราย

การที่นักเตะไม่ได้รับเงินเดือนตามที่ตกลงกันไว้แล้วนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายต่อทีมเลยทีเดียว เพราะนั้นเป็นตัวบอกว่า เหล่าผู้บริหารของทีมนั้น บริหารงานผิดพลาดเรื่องของความสมดุลยเรื่องของรายรับรายจ่ายเสียแล้ว ซึ่งเมื่อเงินเดือนนักเตะและทีมงานไม่ได้ ผลเสียก็จะตามมาเป็นโขยงเลยทีเดียว

นักเตะไม่มีใจ ทำให้ทีมแตกได้ง่าย

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดของการที่เงินเดือนนักเตะไม่เข้าก็คือ สปิริตของทีมจะเสียไป จริงอยู่ว่าการเล่นฟุตบอลนักเตะคงไม่ใช้เงินนำทางแต่เพียงอย่างเดียว แต่การไม่ได้รับเงินก็อาจจะทำให้นักเตะเสียความมั่นใจต่อทีมไป สุดท้ายก็เล่นไม่เต็มที่ หรือร้ายกว่านั้นก็คือ การที่นักเตะแอบไป “รับงาน” มา เพราะไม่มีเงินใช้จึงต้องใช้วิธีนี้เป็นต้น สุดท้ายจริงก็ทำให้ผลงานของทีมเสียไป โอกาสตกชั้นมีสูงมาก แน่นอนว่าการตกชั้นย่อมเสียมากกว่าเงินเดือนที่ค้างนักเตะแน่นอน

การจัดระเบียบเรื่องเงินเดือนนักเตะ

เรื่องของเงินเดือนนักเตะ และผู้จัดการทีมไม่เข้านั้น ถือว่าเป็นปัญหามาหลายทีมแล้ว ซึ่งทางแก้ที่เราขอแนะนำก็คือ ให้ทางไทยลีคมีการตรวจเข้มในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงินของทีมว่าเป็นอย่างไร(ควรตรวจทุก 6 เดือน)หากมีปัญหาจะได้แก้ไขทัน หรือกำหนดเพดานเงินเดือนนักเตะก็ดี ค่าตัวและค่าจ้างจะได้ไม่เฟ้อมาก ยอมรับเลยว่าไม่อยากเห็นทีมไหนก็ตามต้องยุบไปเนื่องจากเงินไม่มีเลยจริงๆ

วิเคราะห์สาเหตุทำไมโปรแกรมไทยลีคไม่คลอดสักที

แฟนบอลไทยหลายคนช่วงนี้อาจจะมีความตื่นเต้นผสมกับความหงุดหงิดกันอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนที่ตื่นเต้นก็คือต่างเฝ้ารอที่จะดูฟุตบอลไทยลีคฤดูกาลหน้าแบบไม่ไหวแล้ว เพราะแต่ละทีมเตรียมตัวกันได้แบบน่าสนใจเหลือเกิน ส่วนความหงุดหงิดก็คือทำไมโปรแกรมไทยลีคยังไม่คลอดออกมาสักที ทั้งๆที่ก็ใกล้จะเปิดวิกกันอยู่แล้ว วันนี้เรามาลองมโนกันว่าทำไมโปรแกรมการแข่งขันมันถึงคลอดยากเย็นเสียเหลือเกิน

การจัดโปรแกรมวันศุกร์

ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนี้ ส่วนหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ การปรับเปลี่ยนตารางการแข่งขันให้เริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์เลย(เข้าใจว่าเอาตามแบบพรีเมียร์ลีค) ทำให้การกระจายการแข่งมาวันศุกร์นั้นต้องทำให้เท่าเทียมกัน เพราะการแข่งวันศุกร์จะมีผลอย่างมากในกรณีที่ทีมจะต้องมีการแข่งกลางสัปดาห์ด้วย เลยทำให้การออกแบบโปรแกรมจะช้าไปสักหน่อย(แต่ก็ไม่น่าจะนานขนาดนี้ ถ้าไม่ชัวร์ปีนี้ลองวันศุกร์แค่ 3-4 ครั้งแล้วประเมินผลก็พอ)

เรื่องราวของทีมอย่างชัยนาท และอาร์มี่

เรื่องที่สองถือว่าเป็นผลพวงจากความผิดพลาดและอีรุงตุงนังจากฤดูกาลที่แล้ว ที่ท่านนายกได้สั่งปิดลีคไปก่อนนั่นทำให้สถานะของอาร์มี่และชัยนาท มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนเลยว่า ตกลงแล้วจะเอายังไงกันแน่ นั่นทำให้คนจัดโปรแกรมก็ไม่กล้าจัดสองทีมนี้ลงทำการแข่งขันไปด้วย สุดท้ายมันก็เลยงงๆอย่างที่เห็นว่า สองทีมนี้ต้องไปเล่นในลีคไหนกันแน่

โปรแกรมของทีมชาติ

เรื่องสุดท้ายที่ดูเหมือนว่าจะไม่เกี่ยวแต่ก็สำคัญนั่นก็คือเรื่องของทีมชาติที่ปีนี้ยังต้องลงเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครึ่งหลังอีก ถึงแม้ว่าเราจะหมดลุ้นไปแล้ว แต่ก็ต้องลงเตะพร้อมกับทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ทีนี้จากปีที่แล้วเรามักจะจัดเวลาสำหรับทีมชาติเยอะเกินไป ทำให้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว ทีนี้มันก็มาพะวงกับลีคล่ะสิ ว่าในอาทิตย์ที่มีแข่งทีมชาติจะต้องพักกันกี่วัน

ตลาดซื้อขายนักเตะจีน ต้องไวก่อนจะซบเซา

ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าตลาดซื้อขายนักเตะไปสู่ตลาดจีนถือว่ากำลังคึกคักมากๆ เนื่องจากตลาดจีนตอนนี้ต้องการที่จะยกระดับการแข่งขันและคุณภาพของลีคให้สูงขึ้นโดยการนำเข้านักเตะที่ยังอยู่ในวัยที่เล่นได้จากยุโรปไปเล่นให้ เลยไม่แปลกที่บรรดาเอเย่นต์ของนักเตะเริ่มที่เป่าหูให้โยกกไปกินบะหมี่กันแล้ว

การปล่อยนักเตะที่ไม่ใช่ในราคาสูง

หากมองในแง่ของทีมแล้ว การได้ปล่อยนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม ไม่ว่าจะเป็นเล่นไม่เข้าระบบ แก่เกินไป หรืออะไรก็ตาม การปล่อยไปสู่ลีคจีนแล้วได้ค่าตัวมหาศาลขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มเหมือนกัน ส่วนนักเตะก็จะได้ค่าเหนื่อยระดับมหาศาลอย่างที่อยู่ในยุโรปยังไงก็ไม่ได้ เอาแค่เตเบซ ได้ค่าเหนื่อยวีคละ 600,000 ปอนด์นี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้วนะ

ตลาดกำลังรุ่งต้องรีบ

แน่นอนว่าช่วงตลาดกำลังเฟื่องฟูอย่างนี้ ต้องบอกว่า ทีมในยุโรปต้องรีบแล้ว เพราะว่าเมื่อลูกค้าต้องการบวกกับจ่ายไม่อั้นได้อย่างนี้ไม่ค่อยมีบ่อยนัก เมื่อก่อนลีคที่ประเทศอเมริกาก็จ่ายไม่อั้นแบบนี้ แต่ก็มีไม่กี่ดีลเท่านั้นเอง ก็ซบเซาลงไป ทำให้ตอนนี้ถ้าทีมไหนไม่อยากจะตกรถไฟขบวนนี้ต้องรีบก่อนที่จะช้าเกินไป

การกำหนดโควต้าที่ทำให้ตลาดซบ

หลายคนอาจจะมองว่าตอนนี้ ลีคจีนกำลังบูมมาก แต่เอาเข้าจริงตอนนี้ก็เริ่มมีสัญญาณของการควบคุมเพดานค่าตัว และค่าเหนื่อยกันแล้ว นั่นก็คือ การประกาศลดโควต้านักเตะต่างชาติลงมาเหลือลงสนามได้เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น (รวมโควต้าเอเชียแล้ว)รวมถึงทางรัฐบาลเริ่มมีการส่งเสียงเตือนถึงภาวะฟองสบู่แตกในวงการฟุตบอลแล้ว ดังนั้นหากใครที่คิดจะขายใครไปจีนเพื่อทำกำไร ต้องรีบด่วน

เกมไทยลีค เตะวันศุกร์ น่าจะดีแต่ยังไม่ใช่

ไทยลีค 1 วันนี้มีข่าวออกมาอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะมองว่าดี แต่ส่วนตัวมองว่าอาจจะยังไม่ค่อยเหมาะกับบ้านเราเท่าไร นั่นก็คือ การจัดโปรแกรมการแข่งขัน ให้ลงเตะตั้งแต่วันศุกร์ แน่นอนว่าหากเรามองไปที่เรื่องของการถ่ายทอด และลิขสิทธิ์ น่าจะมีผลมากขึ้น เพราะมีวันเตะมากขึ้น แต่เอาจริงๆมันยังไม่น่าจะใช่คำตอบ

เตะวันศุกร์ เจ้าบ้านอาจจะไม่ได้รายได้

ประเด็นแรกที่อยากจะค้านการเตะวันศุกร์ ก็คือ เรื่องของการขายค่าตั๋วที่น่าจะได้น้อยมากสำหรับเจ้าบ้าน เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันทำงาน หากไม่ได้เป็นแฟนบอลในพื้นที่ก็อยากจะนั่งรถมาเข้าสนามได้ทัน ยกตัวอย่างถ้าแฟนบอลบุรีรัมย์ต้องการจะนั่งรถมาดูการแข่งวันศุกร์ช่วงค่ำ เดินทางด้วยรถบัส อย่างน้อยก็ 3-4 ชั่วโมง ต้องออกจากกรุงเทพตั้งแต่ 3 โมงเย็นซึ่งยังไม่เลิกงาน ยังไงก็มาไม่ทัน ทำให้สโมสรเสียรายได้ตรงนี้ไปเยอะ

เตะวันศุกร์เป็นการโหมโรงเท่านั้น

ส่วนเรื่องของความน่าสนใจของเกมการเตะวันศุกร์ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการเตะเพียงไม่กี่คู่ แฟนบอลน่าจะให้ความสนใจมากขึ้น แต่เอาเข้าจริงการเตะวันศุกร์ ก็จะเป็นเพียงแค่การโหมโรงของการเตะฟุตบอลลีคในวันเสาร์ อาทิตย์ เท่านั้นเอง ต้องเป็นคู่ใหญ่จริงๆ ถึงจะดึงความสนใจมาได้ แต่หากเราโยกคู่ใหญ่มาไว้วันศุกร์ แล้ววันเสาร์ อาทิตย์ก็ขาดคู่บิ๊กแมตซ์ไป ซึ่งดูแล้วไม่คุ้มกัน

เตะวันศุกร์ มีผลต่อเกมลีค

การเตะวันศุกร์ถือว่ามีผลต่อการแข่งขันในเกมลีคพอสมควร อีกมุมหนึ่งอาจจะทำให้การแข่งขันสนุกขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งมันก็เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบเช่นกัน อย่างเช่นทีมลุ้นแชมป์ที่เล่นก่อนวันศุกร์ หากชนะก็สามารถกดดันทีมที่จะเล่นวันเสาร์ อาทิตย์ได้ แต่อีกมุมหนึ่งใครได้เล่นวันศุกร์ก็มีผลต่อการพักผ่อน และเตรียมทีมด้วยเช่นกัน สรุปว่าวันศุกร์อย่าเพิ่งมีเลย

ข้อดีของการโยกโปรแกรมวันศุกร์

การโยกโปรแกรมการเตะฟุตบอลลีค ให้เริ่มลงเตะตั้งแต่วันศุกร์ที่ไทยลีคกำลังจะทีมตามโมเดลของพรีเมียร์ลีคนั้น ต้องยอมรับว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย คราวที่แล้วเราพูดถึงข้อเสียที่อาจจะตกอยู่กับสโมสรไปแล้ว คราวนี้เราดูข้อดีของการโยกโปรแกรมวันศุกร์กันบ้างว่า มันมีข้อดีอย่างไร

เพิ่มระยะเวลาของกระแสฟุตบอล

ข้อดีอย่างแรกก็คือ การโยกโปรแกรมฟุตบอลไปวันศุกร์จะทำให้ฟุตบอลมีความน่าสนใจมากขึ้น จากที่แต่เดิมกระแสบอลลีคแต่ละสัปดาห์จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันพฤหัส หรือ ศุกร์ เพื่อโหมโรงทีมที่เตะวันเสาร์ อาทิตย์ ก็จะขยับมาเป็นความน่าสนใจกันตั้งแต่วันพุธ วันพฤหัส เลย ยิ่งถ้ามีทีมใหญ่เตะวันศุกร์ด้วยแล้ว เผลอๆมีข่าวออกมาเลี้ยงกระแสกันตั้งแต่วันจันทร์ วันอังคารโน่นเลย ยิ่งถ้าสัปดาห์ไหนมีบอลกลางสัปดาห์ด้วยแล้ว รับรองว่าแฟนบอลเสพข่าวฟุตบอลกันตลอดทั้งสัปดาห์อย่างแน่นอน ฟินกันยาวๆ

เจาะตลาดฟุตบอลจอตู้มากขึ้น

สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งในการโยกโปรแกรมมาเตะวันศุกร์ก็คือ การเจาะตลาด และการขายลิขสิทธิ์บอลจอตู้ให้มากขึ้น จากแต่เดิมจะต้องมารอดูวันเสาร์ อาทิตย์ ก็จะเพิ่มตลาดเป็นการดูวันศุกร์ไปด้วย แฟนบอลคนไหนไม่ได้ไปไหน ก็สามารถนั่งชิลๆดูบอลจอตู้อยู่บ้านได้เลยตั้งแต่วันศุกร์ ยิ่งเตะคู่ 18.00 น.ด้วยแล้ว ดูเสร็จก็ต่อด้วยการดูพรีเมียร์ลีคต่อได้เลยยาวๆ

กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

การเตะฟุตบอลแต่ละครั้ง เจ้าบ้านอาจจะต้องเสียเปรียบเรื่องของรายได้นิดหน่อยที่แฟนบอลต่างจังหวัดคงตีรถมาดูในสนามไม่ทัน แต่อีกมุมหนึ่ง การเตะวันศุกร์ก็จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ยาวๆเลย เช่น การไปดูบอลเตะวันศุกร์ แล้วเที่ยวต่อเสาร์ อาทิตย์ ก็มีเงินสะพัดกันไปแบบยาวๆ

คุณสมบัติเด่นของมินทาล คือการขยันวิ่งหาช่อง และการจ่ายบอลได้อย่างเด็ดขาด

Marek Mintal
Marek Mintal

Marek Mintal

เมื่อเร็วๆนี้ มาริโอ้ คัน ตาลุปปี่ ได้ออกมาเตือนเพื่อนร่วมสโมสร เนิร์นแบร์ก ว่า อย่างลืมว่า ทีมของเราไม่ใช่ทีม เอฟซี มินทาล นั่นเพราะว่า คันตาลุปปี้ ไม่อยากให้สโมสร พึ่งพาความสามารถของ มินทาล มากเกิน จนทำอะไรไม่เป็น ยามที่มิดฟิลด์ชาวโลวัก ไม่ได้ลงสนาม มินทาล โดเด่นเหลือเกินในฤดูกาลนี้ จนมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล ยักษืใหญ่จากพรีเมียร์ชิพ กำลังต้องการได้ตัวเขาไปเล่นในแอนฟิลด์ ประตูส่วนใหญ่ที่เบิร์นแบร์ก ทำได้ก็มาจากการบันดาลให้ของเขา จนส่งผมให้สตาร์ทีมชาติสโลวาเกียรายนี้ ผงาดนำเป็นดาวซัลโวแห่งศึกบุนเดสลีกาอยู่ นับถึงสิ้นเดือนมีนาคม มินทาล ตะบัน ไปให้ เนิร์นแบร์ก ถึง 21 ประตูเลย ทีเดียว จากประตูที่ทำได้ทั้งหมด 45 เม็ด ส่งผลให้ทีมน้องใหม่ไซส์เล็กๆทีมนี้ งมีความหวังที่จะเอาตัวรอกจากการตกชั้นของประเทศสโลวาเกยประจำปี 2004
คุณสมบัติเด่นของมินทาล คือการขยันวิ่งหาช่อง และการจ่ายบอลได้อย่างเด็ดขาด เพื่อนร่วมทีม เนิร์นแบร์ก ต่างพร้อมใจกันเรียก มินทาล ว่า ไอ้ปีศาจ บ่อยครั้ง มินทาล ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมสักเท่าไหร่นัก แต่จู่ๆเขาก็โผล่ออกมากระทุ้งประตูสุดสำคัญให้ทีม มาเร็ค เป็นเหมือนปรากฏการณ์ โวล์ฟกัง โวล์ฟเทรนเนอร์ เนิร์นแบร์ก ว่า ผมตั้งเป้าอยากเห็นเขาทำได้สัก 10 ประตู ในฤดูกาลนี้ และถึงเวลานี้เขาก็ทำได้ทะลุเป้าแล้ว มินทาล ย้ายสโมสรเอ็มเอส ในสโลวาเกีย บ้านเกิดมาอยู่กับ เนิร์นแบร์ก เมื่อปี 2003และกำลังคั่ววตำแหน่งดาวซัลโวของบุนเดสลีกาอยู่
เพลย์เมกเกอร์จอมถล่มประตูผู้นี้ เคยได้รับรางวัลดาวซัลโวของลีกสโลวาเกียมาแล้วถึงสองสมัย ประตุฤดูกาล ตอนเล่นอยู่กับ ชิลิน่า ขณะที่เมื่อฤดูกาลก่อนตอนที่ เนิร์นแบร์ก เล่นอยู่กับใน ลีกาสองมินทาล ก็นำเป็นดาวซัลโวจากการทำไปเบ็ดเสร็จ 18 ลูก สถิติที่ผ่านๆ มาบอกเอาไว้ว่า ใครยิงประตูในลีกาสอง ได้เยอะ มักจะแผงฤทธิ์ไม่ออกยามโผล่ขึ้นมา

1 6 7 8