ใครคือคู่แข่งต่อกรที่แข็งแกร่งที่สุดตามความคิดของเซสฟาเบรกาส

เซสฟาเบรกาส
เซสฟาเบรกาส

เซสฟาเบรกาส

ใครคือคู่แข่งต่อกรที่แข็งแกร่งที่สุดตามความคิดของเซสฟาเบรกาส “ผมคิดว่า รอย คีน ก็คงเป็น พอล สโคลส์ เพราะว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูงมาก ดังนั้นเมื่อคุณเผชิญหน้ากับพวกเขาจำเป็ฯอย่างยิ่งที่จะต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง และมีสมาธิอย่างมาก ผมคิดว่าพวกเขาเป็นนักเตะที่สุดยอดเอามากๆ

คุณคิดว่าใครคือนักเตะที่สุดยอดที่สุดในทีมอาร์เซน่อล “ผมคิดว่าทุกคนเป็นนักเตะที่มีความพิเศษทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้เลือกสำหรับผมคงเป็น ปาทริค วิเอร่า เพราะว่าเขาเป็นนักเตะที่เล่นในตำแหน่งเดียวกับผม และผมมองว่าเขาคือสุดยอดในตำแหน่งนี้ ส่วน อองรี ก็เป็นสุดยอดของโลกคนหนึ่งเหมือนกัน”

“สำหรับผมคงเป็นโรนัลดินโญ่แต่บางทีก็เลือกยากนะระหว่าง โรนัลดินโญ่ กับ อองรี เพราะว่าแทบจะแยกไม่ออกในเวลาที่พวกเขาอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม ” ผมคิดว่าพวกเขามีอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในเรื่องของความทุ่มเทให้กับทีม ดังนั้นพวกเขาน่าจะเก่งพอๆกัน

คุณมักจะพูดอยู่เสมอว่า คุณยึดเอา เปป กวาร์ดิโอล่า เป็นแบบฉบับ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นทั้งๆที่บาร์เซโลน่าก็มีนักเตะชั้นยอดอยู่มากมาย อันดับแรกก็คือ เขาเริ่มเล่นให้กับบาร์เซโลน่าตั้งแต่อายุ 17 และเขาก็คว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในปีที่สุดยอดของเขา ส่วนที่ผมชอบเขาก็เพราะว่า เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย และผมก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับบาร์เซโลน่า เพราะว่าอยากจะเดินตามรอยเท้าของเขา ผมคิดว่าตัวเองสามารถที่จะเรียนรู้จากการเล่นของเขาได้ ซึ่งผมโชคดีมาก ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาและได้ร่วมเล่นกับเขา เขาให้คำแนะนำอย่างมากมายกับผม ซึ่งผมเชื่อว่าเขาคือคนที่นักเตะรุ่นหลังๆ เหมาะที่จะเอาเป็ฯแบบอย่าง

คุณเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุเท่าไหร่ คงจะเป็นตอนอายุ 4 ขวบ โดยวันเกิด ผมได้ของขวัญมากมายและหนึ่งในนั้นคือ รองเท้าฟุตบอล และหนึ่งในนั้นคือ รองเท้าฟุตบอล ผมยิงประตูได้ด้วยในการแข่งขันครั้งนั้น ซึ่งทำให้พ่อของผมภูมิใจมาก ผมบอกกับพ่อว่าเป็นเพราะรองเท้าที่พ่อซื้อให้ ทำให้ผมเล่นได้ดีเรียกว่าผมโชว์ฟอร์มได้ดีตั้งแต่การลงแข่งครั้งแรกในชีวิตแล้ว”

โกรัน กาฟรานซิช ยอดนักบอลที่ฮึดสู้จนกลายเป็นนักเตะในความทรงจำอีกคน

            แต่แม้ว่า โกรัน กาฟรานซิช จะใช้เวลาหนึ่งถึงห้าปีในโรงเรียนลูกหนังของสโมสรเจ้าของแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ เขากลับไม่เคยได้รับโอกาสเลย แถมตอนอายุ 17 ขวบ ทางสโมสรยังบอกกับเขาว่า เขาไม่มีอนาคตกับทีมอีก

ทำเอากองหลังวัยรุ่น ถึงต้องออกอาการท้อแท้ กระทั่งบอกลาการเล่นฟุตบอลที่ตัวเองรักไปนานถึงสามเดือน

อย่างไรก็ตาม กาฟรานซิชก็ฮึดอีกครั้ง และย้ายข้ามฟากของเมืองไปเล่นให้กับสโมสร คูคาริชกี้ ก่อนค่อยๆสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นทีละเล็กทีละน้อย

ในฤดูกาล 2000-01 กาฟรานซิช สามารถงัดฟอร์มสุดยอดออกมาได้ จน เรด สตาร์ เบลเกรด พยายามที่จะหวนกลับมาเซ็นสัญญากับเขาอีกครั้ง

ทว่า กาฟรานซิช เลือกที่จะหักอกสโมสรที่เคยทำให้เขาอกหัก ด้วยการย้ายออกนอกประเทศ ไปเล่นกับ ดินาโม คัยฟ ในยูเครน เมื่อเดือนมกราคม ปี 2001 แทน

การย้ายตัวครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นการย้ายตัวที่ยอดเยี่ยม สำหรับ กาฟรานซิช

เขาเดินทางมาถึงสโมสรที่ดังที่สุดของประเทศยูเครน โยที่ไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อนเลย แต่เพียงปีเดียว กาฟรานซิช ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ ดินาโม เคียฟ ไม่สามารถขาดได้

กาฟรานซิชคว้าแชมป์ลีกของประเทศยูเครนกับ ดินาโม เคียฟ ถึงสามสมัย รวมทั้งได้มีประสบการณ์ในการเล่นบนเวที ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก จนกระทั่งสามารถก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงในทำเนียบทีมชาติ เซอร์เบียและมอนเตเนโก ได้อย่างสง่าผ่าเผย

สตาร์วัย 26 ปี เพิ่งจะขยายสัญญากับ ดินาโม เคียฟ ไปหมาดๆ อันจะทำให้เขาอยู่กับสโมสรไปจนกระทั่งปี 2010 เลยทีเดียว

ผมรัก ดินาโม เคียฟ มากเหลือเกิน เขากล่าว หากผมไปจาก ดินาโม เคียฟ ไป ผมจะต้องไปยังสโมสที่ใหญ่กว่า ในลีกที่แข็งแกร่งกว่านี้

ด้วยบุคลิกที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง ทำให้นักวิจารณ์ลูกหนังหลายคนมองว่า กาฟรานซิชมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะก้าวขึ้นเป็นกองหลังชั้นนำของทวีปยุโรปได้ ขณะที่ตัวเขาเอง ยังสามารถที่จะดันขึ้นไปเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับได้ด้วย

จุดเด่นของ กาฟรานซิช คือความรวดเร็ว พละกำลังที่เต็มเปี่ยม ทักษะการจับบอลที่นิ่มนวล แข็งแกร่งในการเล่นลูกกลางอากาศรวมไปถึงฟรีคิกอันแม่นยำ

ทุกวันนี้แฟนบอล ดินาโม เคียฟ ไม่มีใครที่จะกล้าตั้งคำถามถึงความสามารถของนักเตะผู้นี้อีกแล้ว

สำหรับแม็คมานามานคงไม่มีอะไรน่าภูมิใจมากไปกว่าการได้แชมป์มาครองอีกแล้ว

แม็คมานามาน
แม็คมานามาน

แม็คมานามาน

อาชีพนักฟุตบอลเป็นงานที่มีรายได้มหาศาล และคงไม่มีอะไรน่าภูมิใจมากไปกว่าการได้แชมป์มาครองอีกแล้ว เพราะมันคือสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณแตกต่างจากนักเตะทั่วไปที่สามารถหาเงินได้ 6-7 ล้านปอนด์ตลอดชีวิตการเล่น บางทีพวกเขาอาจจะมีเสื้อที่แลกจากนักเตะดังๆ ติดอยู่เต็มกำแพงบ้าน แต่มันสำคัญที่ว่าอีกฝ่ายต้องการแลกด้วย หรือเพียงเพราะทนถูกเซ้าซี้ไม่ไหวเท่านั้น

ทุกวันนี้ แม็คมานามานมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว บางทีผมอาจจะไม่มีโอกาสลงเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกแล้วก็เป็นได้ เพราะอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ที่ผ่านมา ผมได้ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล หนึ่งในสโมสรที่ประสบผลสำเร็จสูงสุด และหลังจากนั้นผมก็ลงเล่นให้ รีล มาดริด ทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในยุโรป มันคงไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้วเมื่อมองย้อนกลับไป

แต่ถึงอย่างไร สโมสรที่อยู่ในใจของ แม็คมานามาน มาตลอดเวลากลับไม่ใช่ซิตี้ ,รีล มาดริด หรือแม้แต่ต้นสังกัดแรกในชีวิตอย่าง ลิเวอร์พูลแต่อย่างไร กลับเป็น เอฟเวอร์ตัน ทีมที่เขาติดตามเชียร์มาตั้งแต่ยังเล็กแทน

หากผมมีลูกชาย ก็คงจะสอนให้เขาโตขึ้นมาในฐานะ เอฟเวอร์ตัน โตเนียน เพราะพวกเขาคือทีมที่ผมเชียร์มาตลอดเมื่อยังเป็นเด็ก

แฟนบอล ลิเวอร์พูลได้ยินแล้วคงจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ผมอาจจะอยากเอาชนะพวกที่เขาให้ได้ทุกครั้งที่ลงเล่นในดาร์บี้แมตช์ แต่ถึงอย่างไร ผมก็ยังเป็นแฟนบอลของพวกเขาอยู่ดี

โวล์ฟบวร์ก หากฤดูกาลหน้าพวกทำให้ทีมเสียประตูน้อยลงได้ บางทีโอกาสลุ้นแชมป์อาจมีโอกาสสูงขึ้น

หากพูดถึงหนึ่งในทีมที่ถือว่าทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้อย่างน่าสนใจ และยังถือว่าเป็นทีมที่ทำผลงานได้ค่อนข้างเกินความคาดหมายพอสมควรทีมนึงในฤดูกาลนี้นั้น เชื่อว่า คงไม่อาจจะปฏิเสธกันได้แน่นอนหากบอกว่า หนึ่งในนั้นก็คือทีมโวล์ฟบวร์ก อีกหนึ่งทีมแกร่งจากลีกบุนเดสลีกาเยอรมันนั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่า สำหรับฤดูกาลนี้นั้น โวล์ฟบวร์ก ค่อนข้างทำผลงานออกมาได้อย่างดีเกินความคาดหมายจริงๆ เพราะว่าฤดูกาลนี้ พวกเขาสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในโซนหัวตารางได้อีกครั้ง แถมกำลังจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ดีก็ต้องบอกว่า แม้ฤดูกาลนี้โดยรวมนั้น โวล์ฟบวร์ก จะทำผลงานในลีกได้ค่อนข้างดีพอสมควรก็ตาม แต่ทว่าถ้าหากพูดถึงโอกาสลุ้นแชมป์ในลีกนั้น ก็ต้องบอกว่า พวกเขาก็ยังทำได้ไม่ถึงกับดีมากนัก เพราะแม้ฤดูกาลนี้โวล์ฟบวร์ก กำลังจะจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ของลีกได้ก็ตาม แต่ทว่าหากพูดถึงโอกาสลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้แล้ว โวล์ฟบวร์ก ก็ยังทำผลงานตามหลังทีมแชมป์อย่างบาเยิร์น มิวนิคพอสมควรเลย เพราะจะเห็นได้ว่า แม้จะสามารถคว้าอันดับที่สองของตารางคะแนนได้ แต่พวกเขาก็โดนจ่าฝูงอย่างบาเยิร์นมิวนิคนั้น ทิ้งคะแนนห่างไปพอสมควรเลย ซึ่งเห็นแล้วก็น่าเสียดายเหมือนกัน ที่ฤดูกาลนี้พวกเขาทำผลงานบนเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ไม่ถึงกับดีมากนัก แต่ก็ยังคิดว่าพวกเขาก็ยังมีโอกาสที่ไปถึงแชมป์ได้อยู่เหมือนกันสำหรับฤดูกาลหน้า หากว่าฤดูกาลหน้านั้นพวกเขายังคงโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนเดิม และถ้าหากพวกเขาสามารถทำให้ทีมเสียประตูน้อยลงได้ด้วย

สำหรับเหตุผลว่าทำไมนั้น นั่นก็เพราะว่า หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้โวล์ฟบวร์ก ในฤดูกาลนี้ทำผลงานบนเส้นทางลุ้นแชมป์ยังเป็นรองบาเยิร์นมิวนิคนั้น นั่นก็คือ แนวรับของทีมยังเป็นรองบาเยิร์นมิวนิคนั่นเอง นั่นก็เพราะจะเห็นได้ว่า ถ้าหากดูสถิติตัวเลขในตารางคะแนนที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า สิ่งที่โวล์ฟบวร์กยังเป็นรองบาเยิร์นมิวนิคก็คือแนวรับของทีม เพราะโวล์ฟบวร์ก นั้นเสียประตูมากกว่าบาเยิร์นมิวนิค ก็เลยทำให้โอกาสที่พวกเขาจะคว้าสามแต้มสำคัญนั้น เลยลดลงไปด้วย แต่ทว่าสำหรับในส่วนของแนวรุกนั้น ต้องบอกว่า โวล์ฟบวร์ก กลับทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว เพราะจำนวนประตูที่ทีมทำได้นั้น แทบไม่ได้แตกต่างกับบาเยิร์นมิวนิคเท่าไหร่นัก มีแต่ในส่วนของแนวรับเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ค่อยดี ก็เลยทำให้คิดว่า ถ้าหากฤดูกาลหน้า โวล์ฟบวร์ก สามารถปรับแก้ไขแนวรับของทีมให้ดีขึ้นได้ โดยเสียประตูน้อยลง เชื่อว่าโอกาสลุ้นแชมป์ของพวกเขาในฤดูกาลหน้านั้น ก็จะสูงขึ้นแน่นอนนั่นเอง

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับการคิดจะย้ายออกจากลิเวอร์พูล อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด!

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

หากพูดถึงหนึ่งประเด็นที่เกี่ยวกับทีมลิเวอร์พูล ที่หลายๆคนให้ความสนใจในตอนนี้นั้น แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นประเด็นของเจ้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แน่นอน นั่นก็เพราะว่าดูเหมือนเจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง นั้นจะไม่ยอมต่อสัญญากับทางสโมสรลิเวอร์พูลออกไป แถมยังมีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยว่า เขาต้องการที่จะย้ายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้อีกด้วย ก็เลยทำให้กระแสข่าวของเจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในตอนนี้นั้น เลยกลายเป็นหนึ่งในกระแสข่าวที่หลายๆคนให้ความสนใจไม่น้อยเลทีเดียว ดังนั้นสำหรับในบทความนี้นั้นเลยขอตามกระแส จะขอพูดถึงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้กันหน่อยนั่นเอง

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า สำหรับโดยส่วนตัวแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วเจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง นั้นจะย้ายออกจากสโมสรลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาลนี้หรือไม่ ถึงแม้ว่าถ้าดูจากกระแสข่าวที่ออกมาตลอดช่วงทีผ่านมานั้น จะมีโอกาสเป็นไปได้สูงก็ตามที่เจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะย้ายออกจากลิเวอร์พูลไป แต่ก็ต้องรอดูกันอีกทีหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ทว่าสำหรับสิ่งที่น่าจะพูดได้แน่นอนเลยนั้น นั่นก็คือ หากเจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลือกที่จะย้ายออกจากลิเวอร์พูลไปจริงๆนั้น บอกได้เลยว่าอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดสำหรับเขา

สำหรับเหตุผลว่าทำไมนั้น นั่นก็เพราะคิดว่า บางทีสโมสรใหม่ที่เจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไปอยู่ด้วยนั้น เขาอาจจะไม่รับโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับลิเวอร์พูลก็เป็นได้นั่นเอง นั่นก็เพราะเมื่อดูจากกระแสข่าวที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนเจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง ต้องการอยากที่จะย้ายไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่ขึ้น หรือว่าสโมสรที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ในรายการต่างๆสูง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า การแข่งขันแย่งตำแหน่งในทีมนั้น ก็จะค่อนข้างสูงด้วย เพราะทีมใหญ่ๆนั้น ล้วนแต่มีนักเตะฝีเท้าดีๆหลายตัวเลือกเลย ซึ่งมีโอกาสที่เจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่ง นั้นไม่ได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องก็เป็นได้ เพราะจริงๆแล้ว เจ้าราฮีม สเตอร์ลิ่งเองนั้น จากผลงานที่ผ่านมา ยังถือว่าเขายังโชว์ฟอร์มได้ยังไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่นัก ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงและพัฒนา ซึ่งอาจจะทำให้เขาได้ลงแค่บางเกมกับทีมใหม่ก็เป็นได้ แต่ถ้าฤดูกาลหน้าเขาเลือกที่จะอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป เชื่อว่ายังไงโอกาสที่เขาจะได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องนั้น จะมีมากกว่าแน่นอน เพราะยังไงที่ผ่านมา เขาก็คือตัวหลักของทีมมาโดยตลอด นั่นเอง.

ราฟา เบนิเตช คือตัวเลือกที่น่าสนใจ หากแมนซิตี้ต้องการเปลี่ยนกุนซือคนใหม่ในฤดูกาลหน้า!

ราฟา เบนิเตช

ราฟา เบนิเตช

หากพูดถึงผลงานของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ของกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ ที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้แล้ว ต้องบอกว่า ดูเหมือนจะไม่อาจปฏิเสธได้จริงๆว่า สำหรับผลงานของแมนซิตี้ในฤดูกาลนี้ค่อนดรอปลงพอสมควรเลยทีเดียว หากเทียบกับในฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะจะเห็นได้ว่าฤดูกาลนี้ ทีมแมนซิตี้ของกุนซือมานูเอล เปเญกรินี่นั้น ค่อนข้างพลาดบ่อยเหลือเกิน จนทำให้โดยทีมคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่างเชลซีนั้น เริ่มทิ้งคะแนนห่างออกไปเรื่อยๆ และแน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนี้สำหรับโอกาสการลุ้นแชมป์นั้น ก็เริ่มลดน้อยลงทุกทีด้วย และด้วยโอกาสที่แมนซิตี้อาจจะจบฤดูกาลด้วยการไม่มีแชมป์อะไรติดมือเลยนี้นั่นเอง เลยทำให้มีประเด็นที่น่าสนใจตามมา นั่นก็คือ อนาคตตำแหน่งกุนซือของมานูเอล เปเญกรินี่นั่นเอง

เพราะจากกระแสข่าวที่ออกมานั้น ดูเหมือนการที่ผลงานของแมนซิตี้ในฤดูกาลนี้ ทำกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมยังส่อแววว่าอาจจะไม่แชมป์อะไรติดมือด้วยนั้น ทำให้มีข่าวออกมาว่า มานูเอล เปเญกรินี่ อาจจะไม่ได้ไปต่อกับแมนซิตี้ในฤดูกาลหน้านั่นเอง และแน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแมนซิตี้ก็คงต้องหากุนซือคนใหม่ และสำหรับหนึ่งในตัวเลือกที่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย และเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับแมนซิตี้ในการดึงตัวมาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม นั่นก็คือ ชายที่ชื่อว่า ราฟา เบนิเตชนั่นเอง

สำหรับเหตุผลว่าทำไมถึงคิดว่า กุนซือคนนี้เหมาะสมสำหรับแมนซิตี้นั้นนั่นก็เพราะว่า สำหรับราฟา เบนิเตชนั้นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งกุนซือที่มีมือระดับต้นๆคนนึงเหมือนกัน แถมราฟา เบนิเตชนั้นก็เคยคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤฤษมาก่อนแล้วด้วย ซึ่งก็คือกับลิเวอร์พูลและเชลซี โดยเฉพาะกับเชลซีนั้น ราฟา เบนิเตชถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลย เพราะแม้ว่าจะอยู่คุมทีมชั่วคราวในเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่เขาสามารถพาเชลซีคว้าแชมป์ยูโรป้าคัพได้เลย ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ทำได้อย่างเยี่ยมยอดเอามากๆ แถมในเรื่องประสบการณ์ในรายการยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกนั้น เจ้าตัวก็ค่อนข้างมีประสบการณ์สูงอีกด้วย เลยเชื่อว่าเขาน่าจะพาแมนซิตี้ทำผลงานในรายการนี้ได้ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน แถมราฟา เบนิเตชนั้น มักจะทำผลงานได้ดีกับทีมที่ค่อนข้างมีทรัพยากรนักเตะที่ดีอยู่แล้ว และมีเงินให้กับเขาเลือกเสริมทีมได้อย่างเต็มที่อีกด้วยนั้น จึงถือว่ายิ่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับแมนซิตี้เป็นอย่างมาก ถ้าเกิดว่าฤดูกาลหน้าแมนซิตี้ต้องการเปลี่ยนกุนซือใหม่จริงๆ ราฟา เบนิเตชนั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าใจไม่น้อยเหมือนกันนั่นเอง.

ยูเวนตุส กับตัวเลือกการเสริมทีมในฤดูกาลหน้าอย่าง มาริโอ้ มานซูคิส เป็นตัวเลือกที่ดี!

มาริโอ้ มานซูคิส

มาริโอ้ มานซูคิส

หลังจากที่ตอนนี้ ศึกการแข่งขันของแต่ละลีกของยุโรปนั้น ก็เริ่มเข้าใกล้ช่วงจบฤดูกาลเข้าไปทุกที จะเห็นได้ว่าตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น ก็เริ่มมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเสริมทีมในฤดูกาลหน้าของแต่ละทีมนั้น ทยอยกันออกมาให้เห็นกันอย่างเรื่อยๆเลยทีเดียว ทำให้สำหรับในบทความนี้เลยขอหยิบเอากระแสข่าวตลาดซื้อขายนักเตะของฤดูกาลหน้าที่ออกมาเป็นข่าวในที่ช่วงที่ผ่านมานั้น มาพูดคุยกันหน่อย และสำหรับกระแสข่าวที่จะพูดถึงกันในบทความนี้เป็นของทีมยูเวนตุส ที่ตกเป็นข่าวให้ความสนใจอยากได้ตัว มาริโอ้ มานซูคิส เพื่อมาเสริมทีมในฤดูกาลหน้านั่นเอง

โดยตามข่าวนั้นได้มีการเปิดเผยว่า ทางทีมยูเวนตุสต้องการที่จะดึงตัวเจ้า มาริโอ้ มานซูคิส กองหน้าตัวเก่งของทีมแอตมาดริดที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมเช่นกัน เข้ามาทดแทนกองหน้าตัวเก่าอย่างเฟร์นานโด ญอเรนเต้ ที่กำลังจะโดนปล่อยจากทีมยูเวนตุสหลังจากย้ายมาแล้วไม่สามารถโชว์เก่งออกมาได้เลย ซึ่งทางยูเวนตุสเลยมองเจ้ามาริโอ้ มานซูคิส เป็นตัวเลือกที่พวกเขาต้องการจะเสริมทีมในฤดูกาลนี้ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วสำหรับในฤดูกาลหน้า ทีมยูเวนตุสจะสนใจในตัวเจ้ามาริโอ้ มานซูคิส จริงๆหรือไม่ แต่ถ้าจริงก็ต้องบอกว่า เป็นตัวเลือกการเสริมทีมที่เลือกได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

นั่นก็เพราะคิดว่า ถ้าหากเป้าหมายของยูเวนตุสที่ต้องการดึงตัวเจ้า มาริโอ้ มานซูคิส มาเสริมทีมในฤดูกาลหน้า เพื่อเข้ามาเพิ่มศักยภาพในเรื่องการผลิตสกอร์ให้กับทีมในฤดูกาลหน้านั้น ถือว่าพวกเขาเลือกได้ถูกคนแล้ว และเหมาะสมกับทีมอีกด้วย เพราะคิดว่า ถ้ายูเวนตุวได้ตัวเจ้ามาริโอ้ มานซูคิส มาเสริมทีมในฤดูกาลหน้าจริงๆ เชื่อว่าฤดูกาลหน้านั้น ยูเวนตุสน่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นอีกกว่าที่ผ่านมาแน่นอน โดยเฉพาะในรายการยุโรปที่ยูเวนตุสยังทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะเชื่อว่าเจ้ามาริโอ้ มานซูคิสนั้น จะช่วยตอบสนองความต้องการในแดนหน้าในเรื่องของการผลิตสกอร์ให้กับทีมได้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะฝีเท้าของเขาในเรื่องความคมนั้น หลายๆคนก็น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และยังมองว่าสไตล์การเล่นของเขานั้น ก็น่าจะเข้ากันได้ดีกับทีมยูเวนตุสและสไตล์การเล่นของบอลอิตาลีด้วย บวกกับด้วยยูเวนตุสนั้นเป็นบอลระบบอยู่แล้วด้วย เลยยิ่งทำให้คิดว่าเจ้า มาริโอ้ มานซูคิส น่าจะไปได้สวยกับยูเวนตุสแน่นอน และน่าจะเข้ามาทำหน้าที่แทนหอกตัวเก่าอย่าง เฟร์นานโด ญอเรนเต้ได้ดีกว่าแน่นอนอีกด้วย ดังนั้นเลยทำให้ต้องบอกว่า สำหรับเจ้ามาริโอ้ มานซูคิส นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกการเสริมทีมที่ดีสำหรับยูเวนตุส แต่ติดปัญหาอย่างเดียวก็คือ แอตมาดริดจะยอมปล่อยตัวเขาออกจากทีมจริงๆรึเปล่าเท่านั้นนั่นเอง.

เหตุผลว่าทำไม ผลงานของซัวเรสกับบาร์เซโลน่า ถึงไม่เด่นเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับตอนอยู่กับลิเวอร์พูล!

ซัวเรซ

ซัวเรซ

หากพูดถึงหนึ่งในกองหน้าที่ถือว่าทำผลงานได้ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในฤดูกาลก่อนหน้านี้นั้น แน่นอนว่าคงต้องยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับเจ้าหลุยส์ ซัวเรสไปครองนั่นเอง เพราะไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยจริงๆ ว่าในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น ฟอร์มและผลงานของเจ้าหลุยส์ ซัวเรสกับอดีตทีมต้นสังกัดอย่างลิเวอร์พูลนั้น เจ้าตัวทำผลงานได้ออกมาได้อย่างฮ็อตร้อนแรงเหลือเกิน เรียกได้ว่าเขาคือส่วนหนึ่งที่พาลิเวอร์พูลก้าวขึ้นมาคว้ารองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวคือคนที่คอยยิงประตูช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญได้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีจากการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกไปครองนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี หลังจากจบฤดูกาลที่แล้วนั้น เจ้าหลุยส์ ซัวเรสก็ได้ตัดสินใจย้ายออกจากลิเวอร์พูลไปอยู่กับทีมบาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้ และดูเหมือนว่าสำหรับฟอร์มและผลงานของเจ้าซัวเรสกับทีมใหม่อย่างบาร์เซโลน่าในฤดูกาลนี้นั้น จะกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่แม้จะได้ลงเล่นให้กับบาร์เซโลน่าไปแล้วซักระยะ แต่ทว่าเจ้าตัวก็กลับยังยิงประตูได้ไม่เยอะเท่าที่ควร แม้ว่าในเรื่องของการมีส่วนร่วมกับทีมนั้น เจ้าตัวจะทำได้ดีก็ตาม แต่ทว่าสำหรับผลงานในเรื่องของการยิงประตูนั้น หลุยส์ ซัวเรสยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับตอนอยู่กับลิเวอร์พูลก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร จนทำให้หลายๆคนแอบตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาดูว่าสาเหตุที่ทำให้หลุยส์ ซัวเรสยังปยิงประตูไม่ค่อยได้นั้น เป็นเพราะสาเหตุอะไรกัน

และแน่นอนว่าสำหรับเหตุผลแรกนั้น อาจจะเป็นฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกของเขากับบาร์เซโลน่า บางทีสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวยังไม่สามารถยิงประตูได้ดีเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะยังต้องปรับตัวก็เป็นได้ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุหลัก เพราะสาเหตุหลักที่แท้จริงนั้น เป็นเพราะว่า บาร์เซโลน่าก่อนหน้านี้มีนักเตะที่สามารถทำประตูได้ดีอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็คือเนย์ม่าและก็เมสซี่นั่นเอง เพราะถ้าหากลองคิดดูดีๆจะเห็นได้ว่า สมัยตอนที่ซัวเรสเล่นอยู่กับลิเวอร์พูลนั้น ในตอนนั้นเขาคือกองหน้าตัวความหวังของทีมเลย ดังนั้นเลยทำให้ตลอดที่ผ่านมา เวลาทำเกมนักเตะคนอื่นๆมักจะผ่านบอลไปที่เขาตลอด เพื่อให้เขาคอยผลิตสกอร์ให้กับทีม แต่ทว่าพอเข้าย้ายมาอยู่กับบาร์เซโลน่าที่มีดาวเด่นของทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องการยิงประตูในแต่ละฤดูกาลมากมายอยู่แล้วอย่าง เนย์ม่าและเมสซี่ จึงไม่แปลกที่ซัวเรสจะไม่ค่อยเด่นในเรื่องการยิงประตูเท่าไหร่นักสำหรับในฤดูกาลนี้ และก็คงเป็นผลจากการที่เขาพึ่งย้ายมาอยู่กับบาร์เซโลน่าด้วย อาจจะยังปรับตัวได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยทำให้บอลส่วนใหญ่ในแดนหน้าจะฝากอยู่กับที่สองคนอย่างเนย์ม่าและเมสซี่มากกว่า และทั้งสองคนก็เก่งเรื่องยิงประตูอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่ผลงานของซัวเรสในฤดูกาลนี้ ยังไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่เมื่อเทียบกับตอนอยู่กับลิเวอร์พูลนั่นเอง.

เผยสถิติสุดเยี่ยมของ ดีซี ยูไนเต็ด หลัง รูนีย์ ย้ายมา

สถิติที่ยอดเยี่ยมของ ดีซี ยูไนเต็ด หลังจากที่ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงร่างอวบย้ายมาร่วมทีมโดยก่อนหน้าที่อดีตกองหน้าของ แมน ฯ ยูไนเต็ด จะย้ายมา ดีซี ยูไนเต็ด ได้ลงเตะในฤดูกาล 2018 ไปแล้ว 14 เกม ซึ่งพวกเขาเก็บชัยได้เพียง 2 นัด
และแพ้ไปถึง 7 นัดด้วยกันแต่ทันทีที่รูนีย์ย้ายทีมมา ดีซี ยูไนเต็ด ก็มีผลงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสถิติ 17 เกมในเมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ ของดีซีนับตั้งแต่รูนีย์ย้ายมานั้นยอดเยี่ยมมาก พวกเขาเก็บชัยได้ถึง 10 เกม
และแพ้ไปเพียง 4 เกมเท่านั้น ส่วนตัวรูนีย์เอง ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำไป 9 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 17 เกม (สำรอง 2 เกม)

ปัจจุบัน ดีซี ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับที่ 6 ของสายตะวันออก ด้วยการมี 44 คะแนน จากการชนะ 12 เกม เสมอ 8 เกม แพ้ 11 เกม และยังมีลุ้นพาทีมเข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟอยู่ โดยก่อนหน้านี้เวย์น รูนีย์ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ
ได้อำลา เอฟเวอร์ตัน ไปซบ ดีซี ยูไนเต็ด โดยได้สวมเสื้อเบอร์ 9 ให้ต้นสังกัดใหม่ ดีซี ยูไนเต็ด สโมสรแห่งเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (เอ็มแอลเอส) ประกาศคว้าตัว เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าประสบการณ์สูง มาจาก เอฟเวอร์ตัน
ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ วัย 32 ปี ตกลงเซ็นสัญญากับ ดีซี ยูไนเต็ด เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง

รูนีย์ เพิ่งหวนกลับถิ่นเก่า กูดิสัน พาร์ค เมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว และเหลือสัญญาอีก 1 ปี พร้อมเงื่อนไขต่อได้อีก 12 เดือน แต่ มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมคนใหม่ และ มาร์เซล แบรนด์ส ผู้อำนวยการฟุตบอลคนใหม่
ต้องการลดยอดรวมค่าเหนื่อย และโละนักเตะทิ้งไปเพื่อปรับโฉมทีมใหม่ โดยผลงานรูนีย์กับดีซี ยูไนเต็ดเกมแรกนั้นคือเกมที่ถล่มแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ไป 3-1 ประเดิมแอสซิสต์แรกในเมเจอร์ลีกและหลังจากนั้นเวย์น รูนีย์
ก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมเมื่อยิงหนึ่งประตู พร้อมแอสซิสต์อีกสองช่วยให้ ดีซี ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด 3-1 อีกครั้ง

โดยผลงานแอสซิสต์ของรูนีย์อยู่นาทีที่ 29 รูนีย์ เปิดบอลให้ ลูเชียโน่ อาคอสต้า หลุดเข้าเขตโทษก่อนล็อคยิงเข้าไปเป็น 1-0 ทำให้ออกนำและครึ่งหลังนาทีที่ 52 ดีซี มาได้จุดโทษจังหวะที่ พอล อาร์ริโอล่า โดน เอเซเกล บาร์โก้
ขวางจังหวะยิงก่อนที่ รูนีย์ รับหน้าที่สังหารผ่าน แบร๊ด กูซาน ให้ทีมนำ 2-1 และในนาทีที่ 77 รูนีย์หัวหอกชาวอังกฤษก็ยังจ่ายบอลให้ อาคอสต้า หลุดมาทางขวาก่อนแต่งเข้าซ้ายแล้วยิงเข้าไปให้ทีมเอาชนะไปได้ 3-1 ได้อีก
ถือได้ว่ารูนีย์ไปทำผลงานได้ดีนอกลีก และเก็บประสบการณ์ในอาชีพได้อย่างดีเลยทีเดียว

เงินเดือนนักเตะไม่เข้า สัญญาณเตือนอันตราย

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของทีมในไทยลีคนั้น มองในมุมของการพัฒนาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากมองอีกมุมหนึ่งการพัฒนาที่เร็วเกินไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนขึ้นได้ง่าย อย่างเช่นเรื่องของเงินเดือนที่ตอนซื้อตัวอยากได้นักเตะคนนี้ก็เสนอเงินเดือนนักเตะสูงไปแต่จ่ายไม่ไหว สุดท้ายเกิดปัญหาเรื่องของการเงินขึ้นมาจนได้

เงินเดือนไม่เข้า สัญญาณเตือนอันตราย

การที่นักเตะไม่ได้รับเงินเดือนตามที่ตกลงกันไว้แล้วนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายต่อทีมเลยทีเดียว เพราะนั้นเป็นตัวบอกว่า เหล่าผู้บริหารของทีมนั้น บริหารงานผิดพลาดเรื่องของความสมดุลยเรื่องของรายรับรายจ่ายเสียแล้ว ซึ่งเมื่อเงินเดือนนักเตะและทีมงานไม่ได้ ผลเสียก็จะตามมาเป็นโขยงเลยทีเดียว

นักเตะไม่มีใจ ทำให้ทีมแตกได้ง่าย

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดของการที่เงินเดือนนักเตะไม่เข้าก็คือ สปิริตของทีมจะเสียไป จริงอยู่ว่าการเล่นฟุตบอลนักเตะคงไม่ใช้เงินนำทางแต่เพียงอย่างเดียว แต่การไม่ได้รับเงินก็อาจจะทำให้นักเตะเสียความมั่นใจต่อทีมไป สุดท้ายก็เล่นไม่เต็มที่ หรือร้ายกว่านั้นก็คือ การที่นักเตะแอบไป “รับงาน” มา เพราะไม่มีเงินใช้จึงต้องใช้วิธีนี้เป็นต้น สุดท้ายจริงก็ทำให้ผลงานของทีมเสียไป โอกาสตกชั้นมีสูงมาก แน่นอนว่าการตกชั้นย่อมเสียมากกว่าเงินเดือนที่ค้างนักเตะแน่นอน

การจัดระเบียบเรื่องเงินเดือนนักเตะ

เรื่องของเงินเดือนนักเตะ และผู้จัดการทีมไม่เข้านั้น ถือว่าเป็นปัญหามาหลายทีมแล้ว ซึ่งทางแก้ที่เราขอแนะนำก็คือ ให้ทางไทยลีคมีการตรวจเข้มในเรื่องของสภาพคล่องทางการเงินของทีมว่าเป็นอย่างไร(ควรตรวจทุก 6 เดือน)หากมีปัญหาจะได้แก้ไขทัน หรือกำหนดเพดานเงินเดือนนักเตะก็ดี ค่าตัวและค่าจ้างจะได้ไม่เฟ้อมาก ยอมรับเลยว่าไม่อยากเห็นทีมไหนก็ตามต้องยุบไปเนื่องจากเงินไม่มีเลยจริงๆ

1 2