เอลกราซิโก้ ครั้้งที่ 258 จบลงไปแล้วด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้นของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) ที่ไล่ถลุงเจ้าบ้านออย่าง ราชันชุดขาวไปแบบ ไม่มีทางสู้ถึง 4-0 ด้วยสกอร์ถล่มทลายเช่นนี้ แน่นอนว่าถือเป็นความอัปยศอย่างยิ่งของเจ้าบ้านที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่า ในศึกลาลีกา แฟนบอลหลายๆ คนต่างรับไม่ได้กับสกอร์ที่ขาดลอยเช่นนี้ ระหว่างเกมมีอะไรหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ทำไมสกอร์มันถึงได้ขาดลอยเช่นนี้ไปวิเคราะห์เจาะลึกกันทีละประเด็น ก่อนเกมที่สถิติทุกอย่างดูหเมือนจะสูสี แต่จบเกมทีมเยือนยิ้มมุมปากพร้อมเก็บ 3 คะแนน กลับคาตาลัน ด้วยความเหนือชั้น อย่างแท้จริง และไม่น่าเชื่อว่าเกมนี้ รีล มาดริด (Real Madrid) นั้น จะโดนจับล้ำหน้ามากถึง 12 ครั้ง และเป็น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ที่ล้ำหน้ามาที่สุด 8 ครั้งในเกมนี้ นี่คือหลุมพรางของ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  ที่นำมาจัดการดาวเตะผู้นี้ให้หมดฤทธิ์ ไปโดยปริยาย

ฟอร์มที่ร่วงลงไปอย่างน่าใจหาย ของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม เกมรุกที่โดนแผนอันแยบยล ของ ฮานซี่ ฟลิค เล่นงาน จนทั้ง วินิซิอุส และ เอ็มบัปเป้ ต่างหมดพิษสง

เกมลาลีก สเปน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเชื่อได้เลยว่า ทุกสายตาทั่วโลก ต่างจับจ้องไปที่เกม เอลกราซิโก้ ครั้งที่ 258 รีล มาดริด (Real Madrid) เล่นในถิ่น ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว ต้อนรับการมาเยือน ของ บาร์เซโลน่า(Barcelona)  ก่อนเริ่มเกมทั้งคู่มีฟอร์มการเล่นที่ดีทั้งคู่ เกมรุกดุดัน แถมเมื่อกลางสัปดาห์ ทั้งสองทีมก็โชว์ฟอร์มโหดไล่ถลุงทีมจากเยอรมันมาด้วยกันทั้งสองทีม แถมนักเตะทั้งสองทีมก็ทำแฮตทริกได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Junior) ของ รีล มาดิรด (Real Madrid) หรืออว่า ราฟินญ่า (Raphinha) ของ บาร์เซโลน่า (Barcelona)  ดังนั้นการพบกันของทั้งสองทีมในช่วงเวลานี้ ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เกมเริ่มมาเอาจริง sbo euro ในครึ่งแรกสูสีอย่างมาก ทั้งสองทีมผลัดกันบุกจนแทบไม่มีเวลาพัก สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลเป็นมากจนมาถึงนาทีที่ 30 คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) หลุดไปยิงผ่านมือ อินญากี้ เปนญ่า (Iñaki Peña)  ผู้รักษาประตูของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) ข้าไปแต่ทว่าก็โดน วีเออาร์ จับล้ำหน้าไปในที่สุด ทำให้ครึ่งแรก ยังไม่มีประตู ถ้าดูจากครึ่งแรกก็ถือว่าสูสีแม้ว่า ทาง บาร์เซโลน่า (Barcelona) จะหาโอกาสจบได้มากกว่า sbo euro  แต่ก็ยังไม่ได้เหนือกว่าชัดเจน แต่แล้ว คดีฆาตรกรรมที่โหดเหี้ยม ก็เปิดฉากขึ้นในครึ่งเวลาหลัง กลายเป็น บาร์เซโลน่า (Barcelona) ไล่ยำใหญ่ใส่เจ้าบ้านเละไปแบบไม่มีชิ้นดี จนจบเกมมีแต่คนถามหา ว่า จู๊ด เบลลิ่งแฮม (Jude Bellingham) ไปไหน เพราะไม่ได้เห็นมีส่วนร่วมใดๆ กับเกมของ ราชันชุดขาวเลยแม้แต่น้อย จังหวะหลุดก็จับบอลได้แย่จนไม่ได้ยิง ผิดกับปีที่แล้วที่เขาโชว์ฟอร์ม เด่นเป็นเดอะแบกของทีมอย่างสิ้นเชิงจริงๆ ฤดูกาลนี้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม  (Jude Bellingham) ยังทำอะไรไม่เป็นเป็นอันเลยนับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลมา เกมนี้ เกมรับของ บาร์เซโลน่า (Barcelona) เล่นสอดประสาน วางกับดักล้ำหน้ากันได้แยบยลมากๆ ทำเอา ทั้ง คิลิยัน เอ็มบัปเป้  (Kylian Mbappe) และ วินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Junior) ไม่มีพิษสงใดๆ ไปเลย ต้องชม ฮานซี่ ฟลิค (Hansi Flick) อย่างแท้จริง

ลามีน ยามาล สร้างสถิติใหม่ กลายเป็น นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ใน ศึก เอลกราซิโก้ โดยที่เจ้าตัวมีอายุเพียงแค่ 17 ปี 105 วัน เท่านั้น

หลังจากที่ครึ่งแรกของ ศึกเอลกราซิโก้ ครั้งล่าสุด หมดไปด้วยสกอร์ 0-0 ใครจะไปเชื่อว่าครึ่งมันจะเกิดเหตุการณ์สุดช็อคคาสนาม ซานติเอโก้ เบอร์นาบิว ขึ้นเช่นนี้ เมื่อ บาร์เซโลน่า (Barcelona) เริ่มครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจนตั้งแต่เปลี่ยนเอา แฟรงกี้ เดอ ยอง (Frenkie De Jong) ลงมา และจังหวะการเล่นก็กลายเป็น บาร์เซโลน่า (Barcelona) ที่หาโอกาสจบได้ดีกว่า จนในที่สุด โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (Robert Lewandowski) ก็หลุดไปยิงให้ บาร์ซ่า ออกนำไปจนได้ 1-0 ในนาทีที่ 54 และอีกสองนาทีต่อมา ก็เป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้  (Robert Lewandowski) ที่มาบวกสกอร์เพิ่มเป็น 2-0 พอสกอร์มันห่างไปเป็น 2 ลูก เกมของ รีล มาดริด (Real Madrid) ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe)  มีโอกาสหลุด ไม่ล้ำหน้า ก็ยิงไปติดเซฟของ อินญากี้ เปนญ่า (Iñaki Peña) โดยเกมนี้ไม่น่าเชื่อว่า รีล มาดริด  (Real Madrid) จะล้ำหน้าไปมากถึง 12 ครั้ง และเป็น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ล้ำไปคนเดียวเพียวๆ เลย 8 ครั้ง นาทีที่ 77 ลามีน ยามาล (Lamine Yamal) ยิงประตูที่ 3 อย่างสวยงาม ช่วยให้ บาร์ซ่า นำไปเป็น 3-0 พร้อมสร้างสถิติ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในศึกเอลกราซิโก้ ด้วย อายุเพียง 17 ปี 105 วัน และเป็นการทำลายสถิติที่มีมายาวนานถึง 77 ปี จาก อัลฟรองโซ่ นาบาร์โร่ ของ บาร์เซโลน่า ที่ทำไว้ตอนที่เขาอายุ 17 ปี 365 วันเมื่อช่วงปี 1947  จากนั้นช่วงท้ายเกม ก็เป็น ราฟินญ่า (Raphinha)  มาบวกเพิ่มได้อีก 1 ประตู ทำให้เอลกราซิโก้หนนี้ เป็น บาร์เซโลน่า (Barcelona)  ที่บุกมาไล่ถล่ม รีล มาดริด (Real Madrid) ไปได้  4-0 ทิ้งห่าง รีล มาดริด (Real Madrid) ไป 6 คะแนนแล้วในเวลานี้ และก็นำเป็นจ่าฝูงต่อไปแบบสบายๆ